วันนี้เราจะมาคุยเรื่องการฝึกหัดหรือสังเกตการออกเสียง T ของคนอเมริกันดีกว่า คนอเมริกันมีวิธีการออกเสียง T ที่ทำเอาวัยรุ่นเซ็งเลยเวลาที่ได้ยินครั้งแรก ไม่รู้ว่าออกเสียงอย่างนั้นไปได้ยังไง เหมือนที่เล่าไปในโพสต์แรกนั่นแหละค่ะ บางครั้งก็มีกฏบ้าบอ crazy rules ซึ่งเขาอธิบายไม่ได้ก็มี แต่เป็นธรรมชาติของเขา ยังไม่ได้พูดถึง T แต่ขอพูดเรื่องนี้ก่อนค่ะ
เมื่อไปเรียนอยู่นั้นได้มีโอกาสรู้จักกับเพื่อนฝรั่งโดยบังเอิญเนื่องจากขึ้นรถเมล์ผิด เพื่อนชื่อว่า Bob ก็ขึ้นรถเมล์ผิดด้วยเช่นกัน เลยได้มีโอกาสไปคลุกคลีกับครอบครัวของ Bob, Wilma และลูกๆ ทั้ง Jonathan และ Myra
Bob สอนว่าถ้าอยากจะเก่งภาษาอังกฤษต้องพยายามรู้ให้ได้ว่า เขาเรียกสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่าอะไร เหมือนที่เราคุ้นเคยนั่นแหละค่ะ คำศัพท์ทั้งหลายก็จะต้องรู้ด้วย ไม่อย่างนั้นก็พูดไม่ได้ เพราะในการอธิบายบางครั้งจะต้องใช้คำศัพท์ เราจะพูดว่า something like that, something like that ตลอดเวลาไม่ได้ ต้องหัดถาม ช่างถาม
"How many children do you have?"
"I have no children."
"Why no children? Why don't you say I have no child because It should be singular, shouldn't it?"
"Poppy, it is the way we use it. I don't know. It is a crazy rule."
การรู้และเข้าใจกฎเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งมันก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าเราคิดว่าคำนี้น่าจะออกเสียงอย่างนี้ แต่เขาออกอีกอย่างนึงไม่เป็นไปตามตัวสะกดก็ให้ทำใจยอมรับซะก่อน จะได้ไม่เครียด
การออกเสียงของคนอเมริกันนั้น ฟังสบายหูมากเลยสำหรับคนอเมริกันด้วยกันเอง ยกเว้นสำเนียงคนทางใต้ของอเมริกาที่เสียงจะยานมาก จนบางทีก็ฟังไม่ออก ง่ายที่สุดสำหรับคนอยากฝึกฟังคือ การค้นหาคลิปทางยูทูปแล้วทดลองฝึกทุกวันค่ะ ส่วนใหญ่ที่คนอเมริกันพูดจะเป็น Standard American English ที่คนมีการศึกษาใช้พูดกันค่ะ
มาว่าเรื่องตัว T ของเราต่อ ถ้า T เดียวไม่เป็นปัญหา (หู) เราพอรับได้เพราะมันจะเป็นเสียง T ที หรือไม่ก็คล้ายๆ เสียง D
ถ้าสองที TT ละก็ นี่แหละที่ต้องฝึกฟัง ถ้าฟังได้แล้วสนุกค่ะ ลองฟังดูนะ
TT ติดกันสองตัว จะได้ยินเสียงเป็น DD
bitter หูเราจะได้ยินเสียงเป็น bidder
better - "--------" - bedder
butter - "--------" - budder
Betty - "--------" - Beddy
potter - "--------" - podder
pattern - "--------" - paddern
มีอีกหลายคำที่สามารถใช้กฎนี้ได้ ลองฝึกฟังนะคะ
Harry Potter ถ้าคนอเมริกัน ออกเสียง จะเป็นแฮร์รี่ พ็อดเด่อร์
ถ้าเป็นอังกฤษ ออกเสียง แฮร์รี่ พ็อตเถ่อะ
คิดว่าคนอเมริกันที่ไม่เคยเดินทางออกไปไหนเลย จะมีลักษณะของหูขึ้เกียจ คือถ้าเสียงไม่เหมือนปุ๊บจะฟังไม่เข้าใจทันที แล้วก็พาลโมเมสรุปไปว่า คนพูดภาษาอังกฤษไม่ชัดน่ะ intelligent ไม่ดี ว่ากันอย่างงั้นเลยทีเดียว
ส่วนคนที่มีโลกทัศน์กว้าง เคยไปท่องเที่ยวที่นั่นที่โน่นที่นี่ จะพยายามเข้าใจและจะเป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วย เช่น Bob กะ Wilma เป็นต้น
T ต่อไป NT ถ้ามี N กับ T ติดกัน ดูเหมือนว่าจะไม่ออกเสียง T
internet หูเราจะได้ยินเสียง innernet อินเน่อะเน้ทเถอะ (เถอะ เบาๆ)
international - "------" - innernational อินเน่อะแน้ทชั่นนั่ลเล่อะ (เล่อะ เบาๆ นึกถึงลิเก
เวลาที่ร้องแล้วชอบกระดกลิ้นน่ะ)
interview - "------" - innerview
สังเกตคำที่น่าจะใช้กฎนี้ดูนะคะ ว่ามีคำอะไรอีก
วันนี้ลองไปซ้อมหูเท่านี้ก่อนนะคะ แล้วค่อยไป TH นี่ก็เป็นปัญหาสำหรับคนไทยในการออกเสียงเหมือนกัน เอากระจกมาด้วยนะคะ เอามาดูปากตัวเองเวลาอ่านครั้งหน้า เอาใหญ่ๆ ด้วยค่ะ ครั้งหน้าก็พรุ่งนี้แล้ว
แล้วพบกันพรุ่งนี้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น